ซเฟเร็ฟขึ้นชื่อว่าเป็นผู้เล่นที่เก่งในการตีโต้บริเวณหลังเส้นเบสไลน์ (ท้ายคอร์ต) มากที่สุดคนหนึ่ง เขามีลูกกราวน์สโตรคที่หนักหน่วงที่สุดคนหนึ่ง แม้จะมีน้ำหนักตัวที่มาก ทว่าก็เป็นข้อดีให้เขาสามารถตีโต้กับคู่ต้อสู้ได้ด้วยความหนักหน่วง นอวาก จอกอวิช ผู้เล่นอันดับ 1 ของโลกกล่าวชมซเฟเร็ฟว่า "เขาเคลื่อนที่ได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อเทียบกับน้ำหนักตัวของเขา"[116] เขาสามารถตีทั้งลูกโฟร์แฮนด์และแบ็กแฮนด์ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยมีลูกแบ็กแฮนด์เป็นอาวุธเด็ด ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ตีแบ็กแฮนด์ได้ดีที่สุดในปัจจุบัน[117] เขายังสามารถตีลูกตัด (Slice) ได้อย่างคล่องแคล่ว แม้จะมีรูปร่างสูงใหญ่[118] ด้วยความสูงกว่า 1.98 เมตร (6 ฟุต 6 นิ้ว) เป็นตัวช่วยให้เขาสามารถเสริ์ฟด้วยความเร็วถึง 220 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (140 ไมล์) ในช่วงปีแรกที่เขาเพิ่งขึ้นสู่มือวาง 20 อันดับแรกของโลก ลูกเสริ์ฟของเขายังไม่อันตรายนัก โดยอยู่ในอันดับ 38 จากการจัดอันดับโดยสมาคมเทนนิสอาชีพ แต่เขาอยู่ในอันดับ 18 ในด้านการรีเทิร์นลูกเสริ์ฟคู่ต่อสู่ สิ่งนี้เป็นข้อพิสูจน์ว่าเขาสามารถรีเทิร์นลูกเสิร์ฟได้ดีกว่าการเสริ์ฟด้วยตัวเอง[119] ก่อนที่เขาจะพัฒนาทักษะทั้งสองด้านและขึ้นมาอยู่ในอันดับ 19 ในด้านประสิทธิภาพการเสริ์ฟ และในอันดับ 8 ในการรีเทิร์นลูกเสิร์ฟใน ค.ศ. 2018 และเขามีเปอร์เซ็นต์การเสริ์ฟลูกแรกลงถึงร้อยละ 64.2[120]

ซเฟเร็ฟเป็นผู้เล่นที่ถนัดการเล่นในทุกพื้นสนาม โดยคว้าแชมป์มาแล้วทั้งการแข่งขันบนพื้นคอนกรีต (ฮาร์ดคอร์ต) และคอร์ตดิน และแม้จะยังไม่เคยคว้าแชมป์คอร์ตหญ้า แต่ก็สามารถทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการเอาชนะราชาแห่งคอร์ตหญ้าอย่าง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์มาแล้ว[121][122] โตนี นาดาล ผู้ฝึกสอนเทนนิสชื่อดัง และคุณลุงของ ราฟาเอล นาดัล กล่าวยกย่องการเล่นบนฮาร์ดคอร์ตของซเฟเร็ฟว่า " ผมคิดว่าฮาร์ดคอร์ตคือพื้นสนามที่เขาถนัดที่สุด เขาสามารถเคลื่อนที่และตีได้อย่างยอดเยี่ยม"[123] โดยแชมป์ 6 จาก 10 รายการแรกในอาชีพของเขานั้นมาจากฮาร์ดคอร์ต ในขณะที่อีก 4 รายการเป็นการคว้าแชมป์บนคอร์ตดิน

ซเฟเร็ฟยังมีจุดเด่นในการเสริ์ฟและตามไปเล่นลูกวอลเลย์หน้าเน็ตได้อย่างว่องไว โดย มิชา พี่ชายของเขามีจุดเด่นในการเล่นลูกลักษณะนี้ มีผลทำให้ซเฟเร็ฟฝึกฝนวิธีการเล่นดังกล่าว[124]